✒ ปรโยชน์ของโพรไบโอติก แล็กโทบาซิลลัส รียูเทอรี
โพรไบโอติก แล็กโทบาซิลลัส รียูเทอรี (Probiotic Lactobacillus Reuteri)
โพรไบโอติกมีบทบาทมากขึ้นในการดูแลสุขภาพ รวมทั้งการใช้ในทางการแพทย์ ภาวะหรือโรคบางชนิด แต่ไม่ใช่ว่าจุลินทรีย์ทุกตัวจะเป็นโพรไบโอติก และโพรไบโอติกแต่ละสานพันธุ์ก็ให้ผลไม่เหมือนกัน จึงควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนเลือกรับประทาน
5 หยดประกอบด้วย L. reuteri Protectis ที่มีชีวิต 100 ล้านตัว ปลอดภัยสำหรับการใช้งานในระยะยาว หนึ่งในโปรไบโอติกที่ปลอดภัยที่สุดและได้รับการศึกษาทางคลินิกมากที่สุดในทารก ผ่านการทดสอบในการทดลองทางคลินิกมากกว่า 150 รายการ แนะนำโดยกุมารแพทย์ทั่วโลก ยอดขาย 74 ล้านขวด
โพรไบโอติก คือ จุลินทรีย์ที่มีชีวิต เมื่อรับในปริมาณที่เหมาะสมจะให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ การเลือกรับประทานโพรไบโอติก ต้องเลือกระดับ "สานพันธุ์" เพราะแต่ละสายพันธุ์อาจให้ผลต่างกัน ทั้งนี้ เราต้องพิจารณาว่าสายพันธุ์นั้นๆ มีการศึกษาทางวิทยาศาสตร์และทางการแพทย์ยืนยันประสิทธิภาพ ที่ต้องการหรือไม่ เช่น หากต้องการใช้เพื่อบรรเทาภาวะปวดท้อง ต้องดูว่าสายพันธุ์ที่เราเลือกนั้นมีการศึกษาว่าสามารถให้ผลการบรรเทาภาวะปวดท้องได้จริงและปลอดภัย
แล็กโทบาซิลลัส รียูเทอรี เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ของจุลินทรีย์ ดั้งเดิมที่อาศัยอยู่ในระบบทางเดินอาหารของมนุษย์ แล็กโทบาซิลลัส รียูเทอรี ถูกค้นพบโดยนักจุลชีววิทยาชาวเยอรมัน โดย L. reuteri DSM 17938 เป็นสายพันธุ์ที่มีการศึกษาและมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งปกติพบได้ในกระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก และลำไส้ใหญ่ของมนุษย์ โดยสายพันธุ์ดังกล่าวมีต้นกำเนิดมาจาก L. reuteri ATCC 55730 ซึ่งได้มาจากน้ำนมของแม่
แนะนำ ... ยาหยดเพื่อสุขภาพลำไส้และปรับสมดุล BioGaia® Protectis เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโปรไบโอติกที่ประกอบด้วยแบคทีเรียกรดแลคติค Limosilactobacillus reuteri ที่ได้รับการจดสิทธิบัตร (เดิมชื่อ Lactobacillus reuteri) Protectis (L. reuteri DSM 17938) ซึ่งช่วยให้จุลินทรีย์ที่ดีรักษาสมดุลตามธรรมชาติในลำไส้
เพียง 5 หยดต่อวัน 5 หยดประกอบด้วย L. reuteri Protectis ที่มีชีวิต 100 ล้านตัว ปลอดภัยสำหรับการใช้งานในระยะยาว หนึ่งในโปรไบโอติกที่ปลอดภัยที่สุดและได้รับการศึกษาทางคลินิกมากที่สุดในทารก ผ่านการทดสอบในการทดลองทางคลินิกมากกว่า 150 รายการ แนะนำโดยกุมารแพทย์ทั่วโลก ยอดขาย 74 ล้านขวด
ทำไมต้องเป็น ..... โพรไบโอติก แล็กโทบาซิลลัส รียูเทอรี เพราะเป็นโพรไยโอติกที่มีการศึกษารับรองเป็นอย่างดีและได้รับการแนะนำจากแนวทางเลือกใช้โพไบโอติกจาก สมาคมแพทย์โรคระบบทางเดินอาหารนานาชาติ
มีการศึกษาทางคลีนิกที่ยืนยันประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการรับประทานโพรไบโอติก แล็กโทบาซิลลัส รียูเทอรีในหลายๆ ภาวะ ดังนี้
✖ ท้องผูก : จำนวนครั้งของการขับถ่ายเพิ่มขึ้น 96% หลังรับประทานโพไบโอติก แล็กโทบาซิลลัส รียูเทอรี เทียบกับก่อนรับประทาน
การศึกษาในผู้ป่วยท้องผูก จำนวน 40คน พบว่าการรับประทานโพรไบโอติก แล็กโทบาซิลลัส รียูเทอรี เป็นเวลา 4 สัปดาห์ ช่วยเพิ่มความถี่ในการขับถ่ายโดยเฉลี่ยจากเดิม 2.68 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็น 5.28 ครั้งต่อสัปดาห์
☑ ก่อนรับประทาน | -------------------- 2.68 |
✅ หลังรับประทาน 4 สัปดาห์ | ----------------------------------- 5.28 |
✖ ปวดท้อง : ความถี่ของอาการปวดท้องลดลง 55% หลังรับประทานโพไบโอติก แล็กโทบาซิลลัส รียูเทอรี เทียบกับก่อนรับประทาน
การศึกษาในผู้ป่วยเด็กที่มีภาวะปวดท้อง (FAP) จำนวน 101คน พบว่ากลุ่มผู้ป่วยที่รับประทานโพรไบโอติก แล็กโทบาซิลลัส รียูเทอรี เป็นเวลา 4 สัปดาห์ มีความถี่ของอาการปวดท้องโดยเฉลี่ยลดลงจากเดิมเหลือเพียง 1.9 ครั้งต่อสัปดาห์ จากเดิมก่อนรับประทาน ซึ่งมีความถี่ของอาการปวดท้องเฉลี่ย 4.2 ครั้งต่อสัปดาห์
☑ ก่อนรับประทาน | ---------------------------- 4.2 |
✅ หลังรับประทาน 4 สัปดาห์ | --------- 1.9 |
✖ ท้องเสียเฉียบพลัน : ระยะเวลาท้องเสียลดลง 33 ชั่วโมง ในกลุ่มที่รับประทานโพไบโอติก แล็กโทบาซิลลัส รียูเทอรี เทียบกับกลุ่มที่รับประทานยาหลอก
การศึกษาในผู้ป่วยเด็กที่มีภาวะท้องเสียเฉียบพลัน จำนวน 127 คน พบว่าผู้ป่วยที่รับประทานโพรไบโอติก แล็กโทบาซิลลัส รียูเทอรี มีระยะเวลาท้องเสียเฉลี่ย 70.7 ชั่วโมง เทียบกับกลุ่มที่รับประทานยาหลอก ซึ่งมีระยะเวลาถึง 103.8 ชั่วโมง
☑ กลุ่มที่รับประทานยาหลอก | ----------------------------------- 103.8 |
✅ กลุ่มที่รับประทานโพรไบโอติก | ---------------------- 70.7 |
✖ ภาวะโคลิค : ระยะเวลาร้องงอแงลดลง 2 ชั่วโมง 26 นาที ต่อวัน หลังรับประทานโพไบโอติก แล็กโทบาซิลลัส รียูเทอรี เทียบกับ 52 นาที ในกลุ่มที่รับประทานยาไซเมทิโคน
การศึกษาในทารกที่มีภาวะร้องโคลิค จำนวน 83 คน พบว่าระยะเวลาร้องงอแงโดยเฉลี่ยในกลุ่มที่รับประทานโพรไบโอติก แล็กโทบาซิลลัส รียูเทอรี ลดลง 197 นาทีต่อวัน เหลือ 51 นาทีต่อวัน เทียบกับกลุ่มที่รับประทานยาไซเมทิโคน ซึ่งลดลงจาก 197 นาทีต่อวัน เหลือ 145 นาทีต่อ
☑ กลุ่มที่รับประทานยาไซเมทิโคน | ----------------------------------- 197 ----------------- -- 145 |
✅ กลุ่มที่รับประทานโพรไบโอติก | -------- - 197 --------- 51 |
อัตราการตอบสนองต่อ โพรไบโอติก แล็กโทบาซิลลัส รียูเทอรี สูงถึง 95% เทียบกับ 7% ในกลุ่มที่ได้รับยาไซเมทิโคน
✖ สำรอกน้ำนม : การสำรอกน้ำนมลดลง 80% หลังรับประทานโพไบโอติก แล็กโทบาซิลลัส รียูเทอรี 30 วัน เทียบกับ 33% ในกลุ่มที่ได้รับประทานยาหลอก
การศึกษาในทารกที่มีภาวะสำรอกน้ำนม จำนวน 34 คน พบว่ากลุ่มที่ได้รับประทานนมผงผสมร่วมกับโพรไบโอติก แล็กโทบาซิลลัส รียูเทอรี มีการสำรอกน้ำนมเฉลี่ยลดลงจาก 5 เป็น 1 ครั้งต่อวัน คำนวนในช่วงเวลา 7 วัน สุดท้ายของการศึกษาและกลุ่มที่ได้รับยาหลอกมีการสำรอกน้ำนมเฉลี่ยลดลงจาก 6 เป็น 4 ครั้งต่อวัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
☑ กลุ่มที่รับประทานยาหลอก | ----------------------------------- 6 --------------- 4 |
✅ กลุ่มที่รับประทานโพรไบโอติก | ------------ --- 5 ----- 1 |
ความปลอดภัย : มีการศึกษาเปรียบเทียบการรับประทานโพไบโอติก แล็กโทบาซิลลัส รียูเทอรี เทียบกับกลุ่มที่รับประทานยาหลอก เป็นระยะเวลา 1ปี (ตั้งแต่เกิดจนถึงอายุ 1 ขวบ) พบว่าอัตราการเกิดอาการข้างเคียงที่ไมุ่รนแรงไม่แตกต่างจากกลุ่มที่ได้รับยาหลอกและไม่มีการรายงาน
✖ ผื่นภูมิแพ้ : การเกิดผื่นภูมิแพ้ในช่วงระยะเวลา 2ปี ลดลง 12% หลังรับประทานโพไบโอติก แล็กโทบาซิลลัส รียูเทอรี 1ปี
การศึกษาในกลุ่มแม่ที่มีประวัติโรคภูมิแพ้ โดยให้รับประทานโพรไบโอติก แล็กโทบาซิลลัส รียูเทอรี 1 เดือนก่อนคลอด และให้ลูกรับประทานตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 1ปี พบว่ามีการเกิดผื่นภูมิแพ้ในช่วงระยะเวลา 2ปีแรก 8% ในกลุ่มที่รับประทานโพรไบโอติก แล็กโทบาซิลลัส รียูเทอรี และ 20% ในกลุ่มที่ได้รับยาหลอก
☑ กลุ่มที่รับประทานยาหลอก | ---------------------------- 20% |
✅ กลุ่มที่รับประทานโพรไบโอติก | ------- 8% |
✖ ท้องเสียจากยาปฎิชีวนะ : การเกิดท้องเสียจากยาปฎิชีวนะลดลง 92% ในกลุ่มที่รับประทานโพไบโอติก แล็กโทบาซิลลัส รียูเทอรี เทียบกับ 50% ในกลุ่มที่รับประทานยาหลอก
การศึกษาป้องกันการเกิดท้องเสียจากการรับประทานยาปฎิชีวนะ พบว่ามีความถี่ในการเกิดท้องเสีย 7.7% ในกลุ่มที่รับประทานโพรไบโอติก แล็กโทบาซิลลัส รียูเทอรี และ 50% ในกลุ่มที่ได้รับยาหลอก
☑ กลุ่มที่รับประทานยาหลอก | ---------------------------------- 50% |
✅ กลุ่มที่รับประทานโพรไบโอติก | ---- 7.7% |
✖ การเกิดการติดเชื้อ : จำนวนในการเกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจลดลง 67% ในกลุ่มที่รับประทานโพไบโอติก แล็กโทบาซิลลัส รียูเทอรี 3เดือน เทียบกับกลุ่มที่รับประทานยาหลอก
การศึกษาในเด็กที่ต้องเข้าสถานรับเลี้ยงเด็กในตอนกลางวัน จำนวน 336 คน โดยให้รับประทานโพรไบโอติก แล็กโทบาซิลลัส รียูเทอรี เป็นเวลา 3 เดือน พบว่าจำนวนวันของการเกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจต่อคน ในกลุ่มที่ับประทานโพรไบโอติก แล็กโทบาซิลลัส รียูเทอรี โดยเฉลี่ยเท่ากับ 1.5วัน และ 4.6วัน ในกลุ่มที่รับประทานยาหลอก
☑ กลุ่มที่รับประทานยาหลอก | ---------------------------- 4.6 |
✅ กลุ่มที่รับประทานโพรไบโอติก | --------- 1.5 |
โพรไบโอติก แล็กโทบาซิลลัส รียูเทอรี DSM 17938 มีจำหน่ายแล้วใน 100 ประเทศทั่วโลก และได้รับการแนะนำแนวทางในการเลือกใช้จากสมาคมแพทย์โรคระบบทางเดินอาหารนานาชาติ
❎ BioGaia® Protectis ไบโอกาย่า® โพรไบโอติก นำเข้าจากประเทศสวีเดน จัดจำหน่ายในประเทศไทย มี 2 ชนิด ชนิดหยดและชนิดเม็ดเคี้ยว "แบบใหม่ชนิดผง" ฉลากและกล่องสีขาวแถบเขียว ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
BioGaia® Protectis ยาหยดทารก เพื่อสุขภาพลำไส้ของทารกและเด็ก ปรับสมดุล
***** 5 หยดวันละครั้ง
สิ่งสำคัญ: เขย่าขวดเป็นเวลา 10 วินาทีก่อนใช้งานแต่ละครั้งเพื่อผสมเชื้อแบคทีเรียกับน้ำมัน เราแนะนำให้หยดด้วยช้อน อย่าเติมเครื่องดื่มร้อนหรืออาหารเพราะอาจทำลายแบคทีเรียที่มีชีวิตได้
การเก็บรักษา: เก็บในที่แห้ง ไม่เกินอุณหภูมิห้อง (สูงสุด 25 °C / 77 °F) เก็บให้พ้นมือเด็ก ปิดขวดไว้ หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับของเหลว เช่น น้ำลายและน้ำ ควรใช้ขวดที่เปิดแล้วภายใน 3 เดือน
วัตถุดิบ: น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันไตรกลีเซอไรด์สายโซ่ขนาดกลาง (เมล็ดในปาล์ม) และ L. reuteri DSM 17938
ปริมาณ: 5 หยดวันละครั้ง (รับประทานได้ 27 วัน) ไม่ควรรับประทานเกินปริมาณที่แนะนำ ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์นี้ทดแทนอาหารที่หลากหลาย ผลิตภัณฑ์สามารถใช้ได้ในสตรีมีครรภ์และสตรีให้นมบุตร หยุดการใช้และปรึกษาแพทย์ หากมีอาการระบบย่อยอาหารแปรปรวน เช่น ท้องเสีย หรือมีอาการแย่ลง นานกว่า 3 วัน แพ็คเกจประกอบด้วยอุปกรณ์ดูดความชื้นสีขาวเพื่อยืดอายุการเก็บ อุปกรณ์ดูดความชื้นได้รับการอนุมัติให้ใช้กับอาหารโดยตรง และไม่ควรบริโภค สินค้าบรรจุในบรรยากาศที่มีการป้องกัน
Probiotic Lactobacillus Reuteri DSM 17938 :
✔ ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน โดยช่วยกระตุ้น CD4 เม็ดเลือดขาว ซึ่งจะทำหน้าที่ยับยั้งไวรัส หรือแบคทีเรียนที่ก่อโรค ป้องกันโรคติดเชื้อ
✔ ช่วยปรับสมดุล ของการทำงานในระบบย่อยอาหาร ลดการอักเสบในระบบทางเดินอาหาร
✔ ปรับสมดุลระบบขับถ่าย ทำให้การขับถ่ายเป็นปกติ
✔ ทำให้เยื้อบุในลำไส้แข็งแรง ป้องกันเชื้อโรคจากอาหาร เข้าสู่ระบบกระแสเลือด
รหัสสินค้า | ขนาด | ราคา | ราคาพิเศษ |
---|---|---|---|
(Sold Out) WEL-biodsm17938th | 5 ml. | -. -฿ | -.-฿ |